หินสามวาฬ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ป่าภูสิงห์ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มของก้อนหินรูปทรงต่าง ๆ ที่สวยงามแปลกตา และถ้ำกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ สามารถแวะชมได้หลายจุด รวมถึงหินสามวาฬ ที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง เหตุผลที่เรียกว่า หินสามวาฬ เพราะลักษณะของจุดชมวิวนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน รูปร่างคล้ายปลาวาฬเรียงกันยื่นออกไปสู่หน้าผา หากมองในมุมสูงจะเหมือนกลุ่มวาฬที่มีพ่อ แม่ ลูก จึงเรียกกันว่า หินสามวาฬ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นของภูสิงห์ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า เบื้องหน้าคือ วิวของผืนป่าเขียวขจีและสายหมอกบาง
หินสามวาฬสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาที่แนะนำ คือ เวลาเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกบาง การชมหินสามวาฬและจุดต่างๆ ต้องใช้บริการรถนำเที่ยวของท้องถิ่นเพราะเส้นทางไปยังหินสามวาฬค่อนข้างออฟโรดมาก ต้องอาศัยผู้ชำนาญเส้นทาง รถจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง – ห้าโมงเย็น เมื่อมาถึงสามารถไปติดต่อ พร้อมชำระค่าบริการคันละ 500 บาท (ไป-กลับ) รถสามารถนั่งได้ถึง 10 คน
สำหรับคนที่ต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นแนะนำให้มาตั้งแต่เช้า คือ ตีห้าครึ่ง เพราะพระอาทิตย์ขึ้นเร็วมากประมาณ 6 โมงเช้า โดยเราเลือกพักในที่พักที่ตั้งอยู่ในอำเภอศรีวิไล ใกล้กับภูสิงห์ ชื่อว่า เดอะ ลิตเติ้ล การ์เด้น รีสอร์ท ห่างจากภูสิงห์ 15 กม. จากที่ทำการภูสิงห์ไปยังหินสามวาฬผ่านเส้นทางดินแดงและออฟโรดนิดๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นเดินเข้าไปเพียง 200 เมตร คือ หินวาฬพ่อ หินก้อนใหญ่ที่โดดเด่นและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ริมสุด ถ้าอยากได้ภาพหินพ่อซึ่งเป็นก้อนไฮไลท์แบบเต็มก้อน ต้องไปเดินไปยังหินอีกก้อน คือ หินวาฬแม่ ซึ่งอยู่ตรงกลาง โดยจะมีเป็นช่องให้เดินเข้าไป ส่วนหินวาฬลูกไม่สามารถเดินเข้าได้ เพราะไม่มีเส้นทางเข้าไป จะเดินชมได้แค่หินวาฬพ่อและแม่ เท่านั้น
พื้นที่ของหินวาฬแม่ มองไปก็จะเห็นหินวาฬพ่อ อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น บริเวณจุดชมวิวลมค่อนข้างแรง หากจะเดินไปถ่ายภาพต้องเดินอย่างระมัดระวังกันสักหน่อย
แสงสีทองเริ่มสาดส่องภาพที่เห็นตรงหน้าคือสีของท้องฟ้าที่ไล่สีกันขึ้นมาอย่างสวยงาม มองเห็นสายหมอกบางในยามเช้าสวยงามมาก วิวที่เห็นเบื้องหน้า คือ ทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
นอกจากจุดชมวิวหินสามวาฬแล้วที่ป่าภูสิงห์แห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอื่น อีก 9 จุด ได้แก่ 1.จุดชมวิวถ้ำฤๅษี 2.กำแพงภูสิงห์ 3.จุดชมวิวหินหัวช้าง 4.หินช้าง 5.หัวใจภูสิงห์ 6.ถ้ำใหญ่ 7.ลานธรรมภูสิงห์ 8.จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ 9.ประตูภูสิงห์ สามารถแวะได้ทุกจุด ตามที่เวลาจะพอมี รวมทั้งกำลังของขาของเราเอง บางจุดรถถึงเดินไปไม่กี่เมตร บางจุดต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปพอสมควร และบางจุดต้องใช้เจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป จากหินสามวาฬนั่งรถมานิดเดียว จะเป็นจุดชมวิวถ้ำฤๅษี ซึ่งในยามเช้าแสงก็สวยไม่แพ้หินสามวาฬ วิวจะเป็นวิวที่คล้ายกันแต่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง